30.4 C
Bangkok
Tuesday, December 9, 2025

อัตราการเกิดของคนไทยลดลงต่อเนื่อง

ช่วง 2 – 3 ปีที่ผ่านมา น่าจะได้ยินเรื่องของอัตราการเกิดของคนไทยที่ลดลงต่อเนื่อง

โดยลดลงมาตั้งแต่ปีพ.ศ.2555 มาถึงปัจจุบัน หรือลดลงตต่อเนื่องมาประมาณ 10 – 11 ปีแล้ว

แต่ถ้าดูในภาพรวมแล้วจะเห็นว่าอัตราการเกิดของคนไทย

อยู่ในทิศทางที่เป็นขาลงมาตั้งแต่ปีพ.ศ.2540 เป็นต้นมา

ซึ่งปีพ.ศ.2540 เป็นปีแรกที่มีอัตราการเกิดต่ำกว่า 9 แสนคน จากนั้นก็ลดลงต่อเนื่อง

อาจจะมีการเพิ่มขึ้นบ้างในบางปี แต่หลังจากนั้นไม่นานก็จะลดลงอีกครั้ง

ซึ่งการที่ประชากรไทยเกิดใหม่ลดลงมาจากหลายปัจจัย

ทั้งเรื่องของภาวะเศรษฐกิจ และค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงดู  รวมไปถึงคนจำนวนมากย้ายเข้าสู่เมือง

ไม่ได้อยู่ในชนบทหรือทำงานในภาคเกษตรกรรมแบบช่วงก่อนปีพ.ศ.2520 อีกแล้ว

ค่าใช้จ่ายในเมืองรวมไปถึงการต้องทำงานหนัก และความที่ไม่อยากให้ลูกลำบากเหมือนตนเองเริ่มมีมากขึ้น

คนในสังคมเมืองจึงเริ่มมีลูกลดน้อยลง เหลือเพียงครอบครัวละ 1 – 3 คน

จนค่อยๆ ลดลงเดหลือเพียงครอบครัวละ 1 คนก่อนที่จะลดลงเหลือต่ำกว่า 1 คน

นั่นหมายความว่าครอบครัวคนไทยจำนวนมากในปัจจุบันไม่มีลูก

เรื่องของการเกิดที่ลดน้อยลงต่อเนื่องมาในช่วงหลายปีนี้มีผลกระทบต่อสิ่งต่างๆ อีกลหายเรื่องแน่นอนในปัจจุบัน และในอนาคต

การที่คนไทยมีอัตราการเกิดลดลงมาต่อเนื่องในช่วงหลายๆ ปีที่ผานมา

เริ่มเห็นผลกระทบมากขึ้นแล้วในช่วงปัจจุบัน และน่าจะมากขึ้นต่อเนื่องไปถึงอนาคต

เพราะไม่เพียงกระทบตั้งแต่ระบบการศึกษา โรงเรียนเอกชนจำนวนมากไปต่อไม่ได้  โรงเรียนในต่างจังหวัดไกลๆ ก็ต้องปิดตัวเองลงเช่นกัน

ชนบทหลายๆ หมู่บ้านเริ่มขาดแคลนคนรุ่นเด็กไปถึงวัยหนุ่มสาว ในขณะที่สังคมเมืองขาดแคลนแรงงานเพื่อทำงานที่ต้องใช้แรงงาน

การเข้ามาของแรงงานต่างด้าวจึงกลายเป็นสิ่งที่เจ้าของโรงงาน และเจ้าของกิจการต่างๆ เรียกร้องไปยังรัฐบาล ถึงขนาดต้องมีการให้คณะรัฐมนตรีอนุมัติให้นำเข้าแรงงานจากประเทศเพื่อนบ้าน

ธุรกิจอีกหลายๆ อย่างเริ่มเห็นปลายทางในอนาคตว่าไม่สามารถพึ่งพากำลังซื้อคนไทยได้แล้ว

การหันไปเปิดตลาดกับกำลังซื้อต่างชาติจึงกลายเป็นเรื่องจำเป็น ทั้งในเรื่องของธุรกิจการท่องเที่ยว และอสังหาริมทรัพย์

การที่มีคนเกิดน้อยในช่วง 20 กว่าปีที่ผ่านมามีผลกระทบในเรื่องของกำลังซื้อที่ลดลง

เพราะเมื่อคนเกิดน้อยแล้วโตขึ้นมาจนถึงช่วงอายุ (35 – 54 ปี) ที่ต้องใช้เงินเพื่อซื้อบ้าน รถ หรือใช้จ่ายต่างๆ ก็น้อยลงไปด้วยเช่นกัน

และในอนาคตก็คงเป็นช่วงเวลาที่กลุ่มคนที่อยู่ในช่วงวัยของการใช้เงินจะมีจำนวนลดลงต่อเนื่อง สวนทางกับกลุ่มคนที่มีอายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไปที่เพิ่มมากขึ้น

การพึ่งพาแต่กำลังซื้อของคนไทยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจคงทำได้ยากขึ้นในอนาคต

Recent Articles

TCMA นำทัพผู้นำอาเซียนซีเมนต์

สมาคมอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ไทย (TCMA) ตอกย้ำบทบาทผู้นำระดับภูมิภาค นำสภาผู้ผลิตปูนซีเมนต์แห่งอาเซียน (ASEAN Federation of Cement Manufacturers: AFCM) เดินหน้าประกาศโรดแมปลดคาร์บอน “2035 AFCM Decarbonization Roadmap” ความร่วมมือที่ริเริ่มโดยอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ในระดับภูมิภาคแห่งแรกของโลก สะท้อนพลังความร่วมมือขับเคลื่อนลดคาร์บอนอย่างเป็นรูปธรรม

เปิดพอร์ต “เซ็นทรัลพัฒนา เรซซิเด้นซ์” 11 ปี 51 โครงการ 6.57 หมื่นล้าน

บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา เรซซิเด้นซ์ จำกัด ตอกย้ำความสำเร็จด้านผู้นำการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์อย่างยั่งยืน ดันพอร์ตโครงการแนวราบและแนวสูงตามหัวเมืองเศรษฐกิจทั่วทุกภูมิภาคกว่า 51 โครงการ 16,000 ยูนิต มูลค่ารวม 65,700 ล้านบาท สู่การขยายพอร์ตรุกตลาดบ้านเดี่ยวในกรุงเทพฯ อย่างเต็มรูปแบบ พร้อมเดินหน้าสร้างภาพจำ “บ้านเซ็นทรัล” ผ่าน 4 คาแรคเตอร์แบรนด์บ้านเดี่ยว ‘นิยาม-นิรดา-นินญา-นิรติ’ ครอบคลุมทุกเซ็กเมนต์ทั้งกรุงเทพฯ...

สมิติเวช-แสนสิริ ผนึกกำลัง สู่มิติใหม่ของการอยู่อาศัยคุณภาพ

การผนึกกำลังครั้งสำคัญ โรงพยาบาลสมิติเวช โรงพยาบาลเอกชนชั้นนำด้านสุขภาพและการแพทย์ ผนวกวิสัยทัศน์ร่วมกับ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ผู้นำด้านพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยคุณภาพ ประกาศเปิดตัวแคมเปญ "Wellness at Home" อย่างเป็นทางการ เพื่อสร้างมิติใหม่ของการใช้ชีวิตที่ผสานแนวคิดการดูแลลูกบ้านในทุกมิติอยู่อาศัย เข้ากับการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเมืองที่ใส่ใจสุขภาพและต้องการบริการคุณภาพที่มาพร้อมความสะดวกสบายระดับพรีเมียม พญ. ธิดากานต์...

เอพี ไทยแลนด์ ย้ำบริษัทอสังหาอันดับ 1

เอพี ไทยแลนด์ ภายใต้คำมั่นสัญญา ชีวิตดีๆ ที่เลือกเองได้ เผยผลการดำเนินงาน 9 เดือนแรก เติบโตยืนหนึ่งในอุตสาหกรรมอสังหาฯ เพื่อการอยู่อาศัยที่มุ่งส่งมอบที่สุดของ Living Quality ในแบบคุณ #APThaiบริษัทอสังหาอันดับ1 ผลประกอบการ 9 เดือนปี...

ดับบลิว เฮ้าส์ เดินเกมผู้นำรับสร้างบ้านหรู ทำเลเขาใหญ่

ดับบลิว เฮ้าส์ เดินหน้าบุกรับสร้างหรูทำเลเขาใหญ่ ทำเลยอดฮิตแหล่งโอโซนระดับโลกใกล้เมือง ตั้งเป้าเจาะตลาดบ้านหรูหลังที่สอง ‘เศรษฐีไทย’ สิ้นปี 2568 ยอดสร้างบ้านหรูโตก้าวกระโดด ครองสัดส่วน 30–40% พอร์ตรวมบริษัท เฉลี่ยทำผลงานส่งมอบงานลูกค้ากว่า 10 หลังต่อปี มูลค่าต่อหลังประมาณ 30-70 ล้านบาท