บ้านจัดสรร

ช่วงของสถานการณ์โควิด-19 ระหว่างปีพ.ศ.2563 – 2565 ตอนนี้ก็ยังอยู่ในช่วงโควิด-19 แต่ความกังวล ความเครียดต่างๆ ผ่อนคลายไปเยอะแล้ว จะเห็นได้ชัดเจนเลยว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์หดตัวลงมาก โดยเฉพาะในตลาดคอนดมิเนียมที่เห็นได้ชัดเจน ซึ่งตลาดบ้านจัดสรรก็หดตัวเช่นกัน

มาตรการลดค่าโอนกรรมสิทธิ์เหลือ 0.01% จบลงไปแล้ว โดยจบลงตั้งแต่วันที่ 29 ธันวาคม พ.ศ.2565 ซึ่งเป็นวันทำงานวันสุดท้ายของราชการ ซึ่งแน่นอนว่าช่วงเดือนสุดท้ายของมาตรการนี้จะมีการโอนกรรมสิทธิ์กันถล่มทลาย แม้ว่าสถิติและข้อมูลต่างๆ ยังไม่ออกมา

ที่อยู่อาศัยที่มีราคาไม่แพงหรืออยู่ในช่วงราคาไม่เกิน  2 ล้านบาทต่อยูนิต แม้ว่าจะสามารถสร้างความน่าสนใจและดึงดูดให้กับกลุ่มผู้ซื้อที่ใหญ่มาก เพราะจะได้กำลังซื้อที่เป็นฐานใหญ่ที่สุดของประเทศไทย แล้วยังได้รับความสนใจจากกลุ่มของนักลงทุน ดังนั้น แม้ว่าผู้ซื้อกลุ่มนี้อาจจะมีปัญหาในเรื่องของขอสินเชื่อธนาคาร เพราะติดขัดจากปัญหาหนี้ครัวเรือนและการขาดการเตรียมตัวเพื่อขอสินเชื่อธนาคาร แต่ด้วยความที่เป็นลูกค้ากลุ่มใหญ่ที่สุด...

ที่อยู่อาศัยไม่ว่าจะเป็นบ้านหรือคอนโดฯ ในระดับราคาไม่เกิน 2 ล้านบาทต่อยูนิต สำหรับในกรุงเทพฯ และปริมณฑลอาจจะพัฒนาได้ แต่โครงการคอนโดฯ ซึ่งคงเป็นโครงการที่อยู่ในทำเลที่ไกลจากเส้นทางรถไฟฟ้าหรืออยู่ในซอยพอสมควร แต่ยังเดินทางเข้าออกแหล่งงานได้สะดวก หรืออยู่ในแหล่งงานสำคัญต่างๆ เช่น อยู่ในโซนอุตสาหกรรมในจังหวัดสมุทรปราการ ฉะเชิงเทรา ปทุมธานี แบบที่เห็นผู้ประกอบการหลายรายเปิดขายโครงการคอนโดฯราคาขายเริ่มต้นที่ต่ำกว่า 1...

ตลาดอสังหาริมทรัพย์เริ่มอยู่ในช่วงชะลอตัวมาตั้งแต่ก่อนโควิด-19 แล้ว ไม่ใช่เพิ่งจะชะลอตัวในช่วงโควิด-19 เพียงแต่ช่วงโควิด-19 เป็นการชะลอแบบรุนแรงและชัดเจน แต่สัญญานการชะลอตัวเห็นตั้งแต่ช่วงครึ่งหลังของปีพ.ศ.2561 ตามภาวการณ์ขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศไทยที่มีการขยายตัวลดลง ซึ่งถ้าอ้างอิงจากความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยจะเห็นได้ชัดเจน

ก่อนหน้าที่จะมีสถานีรถไฟฟ้าบางนา และแบริ่ง การพัฒนาโครงการอสังหาฯ รูปแบบอื่นๆ ที่ไม่ใช่บ้านจัดสรร เช่น โครงการคอนโดมิเนียมในพื้นที่รอบๆ สี่แยกบางนา และพื้นที่ต่อเนื่องอาจจะมีไม่มาก ก่อนหน้านี้อาจจะมีโครงการคอนโดมิเนียมในบางพื้นที่เท่านั้น เช่น พื้นที่รอบมหาวิทยาลัยรามคำแหง เซ็นทรัล บางนา เป็นต้น แต่พอเส้นทางเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีเขียวต่อขยายมาถึงสถานีบางนา...

ช่วงหลายวันที่ผ่านมาเรื่องของที่อยู่อาศัยเหลือขายต่อเนื่อง โดยใช้ข้อมูลจากศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ที่หาได้ และมีหลายคนกังวลใจเรื่องของจำนวนยูนิตเหลือขาย โดยเฉพาะในตลาดคอนโดมิเนียม แต่ถ้าไล่พิจารณาจากข้อมูลย้อนหลังดูแล้ว บ้านจัดสรรที่เหลือขายในตลาดมีมากกว่า และมีทิศทางที่เพิ่มขึ้นตั้งแต่ปีพ.ศ.2563...

ช่วง 2 – 3 ปีที่ผ่านมา เป็นช่วงที่เวลาที่ตลาดคอนโดมิเนียมอยู่ในช่วงชะลอตัวแบบรุนแรง หลายโครงการคอนโดมิเนียมที่มีการร่วมทุนกันของผู้ประกอบการไทยและต่างชาติติดปัญหาในเรื่องของการขายและการโอนกรรมสิทธิ์ ทำให้การร่วมทุนเพื่อพัฒนาโครงการร่วมกันลดลง บางการร่วมทุนขอหยุดการร่วมทุนก่อนเพื่อรอให้โครงการที่ยังรอการโอนกรรมสิทธิ์ทั้งหมดสามารถปิดการขายและโอนกรรมสิทธิ์เรียบร้อยเพื่อนำเงินที่ได้มาหมุนเวียนลงทุนต่อไป ไม่ลงทุนต่อเนื่องโดยการใส่เงินเข้ามาใหม่ ซึ่งจะเห็นได้จากการร่วมทุนบางรายที่ลงทุนร่วมกันมานาน

พื้นที่กรุงเทพมหานคร และปริมณฑลเป็นพื้นที่ที่มีการเปิดขายโครงการที่อยู่อาศัยมากที่สุด โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมที่มีสัดส่วนอยู่ในกรุงเทพมหานครมากกว่าจังหวัดอื่นๆ อาจจะคิดเป็นสัดส่วนมากถึง 60 - 70% ของคอนโดมิเนียมเปิดขายใหม่ทั้งประเทศ นอกจากนี้จำนวนบ้านจัดสรรก็เยอะมากเช่นกัน รวมๆ...

บ้านจัดสรรยังคงเป็นทางเลือกที่ผู้ประกอบการให้ความสนใจต่อเนื่องจากช่วงปีพ.ศ.2563 – 2565 เพราะเป็นทางเลือกที่มีความเสี่ยงไม่มากเหมาะกับช่วงที่เศรษฐกิจไม่ได้อยู่ในช่วงฟื้นตัวแล้วแบบ 100% เพราะผู้ที่ซื้อบ้านในโครงการจัดสรรมีความต้องการบ้านเพื่ออยู่อาศัยจริงๆ แม้ว่ามูลค่าโครงการจะไม่สูงมาก แต่สามารถปิดการขาย และโอนกรรมสิทธิ์ได้รวดเร็วกว่าการเปิดขายโครงการคอนโดมิเนียม ซึ่งเหมาะในการสร้างรายได้มาเสริมในช่วงที่เศรษฐกิจชะลอตัว...