4 เทคโนโลยีมาแรงเพื่อธุรกิจอสังหาฯ

เพื่อสร้างจุดต่าง และลดต้นทุนหลังยุคโควิด-19

10

เจาะเทรนด์เทคโนโลยีอสังหาปี 2022 เปลี่ยนโฉมการตลาด หลังยุคโควิดเมื่อโควิดกำลังผ่านพ้นไปธุรกิจอสังหาฯ คืออุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบรุนแรงหนักหน่วงผู้เชี่ยวชาญหลายคนลงความเห็นว่าวิกฤติครั้งนี้รุนแรงกว่าทุกครั้งกระทบตั้งแต่กำลังซื้อของผู้บริโภคสะเทือนถึงผู้ประกอบการและสถาบันการเงิน ทุกภาคส่วนล้วนต้องปรับตัว ซึ่งหนึ่งในแนวทาง คือการใช้วิธีคิดและเครื่องมือแบบใหม่ เนื่องจากสถานการณ์เปลี่ยนไปรวมถึงการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นบนกำลังซื้อที่มีอยู่จำกัด ภายใน งานเสวนา RE Wonder Talk 2022 , Tech & Trend Revolution for Real Estate จัดขึ้นเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2654  เปิดเผย 4 เทคโนโลยีสำคัญที่ช่วยเพิ่มยอดขาย ลดต้นทุนการตลาด เข้าถึงและเข้าใจลูกค้ามากยิ่งขึ้น โดยภายในงานได้เผยแพร่ข้อมูลรวมถึงกรณีศึกษามากมายดังนี้


1 Live Streaming Platform จะมีบทบาทสำคัญเพิ่มในการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าให้กว้างขึ้นอีกทั้งการเก็บข้อมูลลูกค้าเพื่อใช้วิเคราะห์กิจกรรมทางการตลาด การชำระเงิน ถึงแม้โควิดจะผ่านไปกลับยังมีผู้บริโภคจำนวนมากยอมรับว่าวิถีชีวิตหลายด้านได้เปลี่ยนแปลง มีรายงานระบุว่า กิจกรรมหลักที่ผู้บริโภคชาวไทยยังคงให้ความสำคัญกับช่องทางออนไลน์แม้ว่ามีมาตรการผ่อนคลายแล้วก็ตามดังนี้ การสั่งอาหาร นำมาเป็นอันดับหนึ่งถึง 82% ซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค 75% ความบันเทิง 67%

นายเสถียร ทันต์เจริญกิจ กรรมการบริหาร บริษัท เว็กซิบ จำกัด (wExib) ผู้พัฒนาโปรแกรมการ ไลฟ์ สตรีมมิ่งแบบ Visual Reality Exhibition กล่าวว่าปัญหาในปัจุบันการไลฟ์ สตรีมมิ่งบนโซเชี่ยลมีเดีย อาทิ เฟซบุ๊ก มีข้อจำกัดด้านการเก็บข้อมูลลูกค้าซึ่งข้อมูลจะไปอยู่ทางเฟซบุ๊กมากกว่าเจ้าของสินค้า รวมถึงข้อจำกัดการถ่ายทอดสดเมื่อต้องใช้มุมกล้องที่หลากหลาย เช่นการถ่ายทำห้องตัวอย่างทำได้เพียงทีละครั้ง แต่การไลฟ์ สตรีมมิ่งยุคใหม่จะสามารถทำได้พร้อมกัน ช่วยให้ผู้ชมมีทางเลือกและอยู่ชมการไลฟ์ได้นานขึ้น มีงานวิจัยเพิ่มเติมเปรียบเทียบผู้บริโภคชาวไทยและเอเชียว่า การไลฟ์ที่มีประสิทธิภาพควรมีเนื้อหาการเล่าเรื่องสินค้าที่น่าสนใจ รวมถึงเวลาในการออกอากาศ เช่น การไลฟ์ในวันจันทร์ต้นเดือน ช่วงกลางคืนส่งผลต่อยอดขายสินค้า สร้างความสนใจได้ดีกว่าวันอื่น


“การไลฟ์ สตรีมมิ่ง เป็นเทคโนโลยีที่สำคัญในการเชื่อมอีเวนท์การขายสินค้า การทำรีวิวสินค้าบนโลกออฟไลน์ผ่านสถานที่และบรรยากาศจริงให้มีความเชื่อมโยงส่งเสริมกันในการสร้างยอดขายมากกว่าพึ่งพาเครื่องมือใดเพียงอย่างเดียว”นายเสถียร กล่าว


สำหรับในธุรกิจอสังหาฯสามารถนำการ “ไลฟ์ สตรีมมิ่ง”ก็สามารถนำแพลตฟอร์มนี้มาใช้ได้ โดยเฉพาะลูกค้า หรือเอเจนท์จากต่างประเทศ ที่ไม่สะดวกในการเดินทาง ก็สามารถชมห้องตัวอย่างได้เลย 

2. Performance-Oriented Digital Marketing & Technology เครื่องมือสำคัญในการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อโดยเฉพาะอย่างยิ่งในธุรกิจพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยที่นับวันการแข่งขันกับต้นทุนเพื่อหาลูกค้าใหม่สูงมาก ในขณะที่ความต้องการที่อยู่อาศัยยังมีต่อเนื่องเพียงแค่พฤติกรรมลูกค้าในการค้นหาข้อมูลและการตอบสนองต่อชิ้นงานโฆษณามีความซับซ้อนขึ้น เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา


นางสาวณัฐติวรรณ ชนะมงคล ผู้อำนวยการฝ่ายการวางกลยุทธ์ บริษัท เดอะ ฟิฟธ์ เฮ้าส์ จำกัด (The Fifth Haus) กล่าวว่า หลังวิกฤติโควิด-19การสื่อสารไปยังลูกค้าจำเป็นต้องมีความพิถีพิถันมากกว่าเดิม ต้องเลือกฐานข้อมูลจากหลายแหล่งมาประกอบมากกว่าการหวังให้โซเชียลมีเดียจะช่วยหาลูกค้าได้ตลอด

นายธนัท กลิ่นเกษร ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท เดอะ ฟิฟธ์ เฮ้าส์ จำกัด (The Fifth Haus)กล่าวว่า 68% ของลูกค้ายังค้นข้อมูลบนเฟซบุ๊ก กับกูเกิ้ล คำยอดฮิตสำหรับค้นหาคือ สุขุมวิท เอกมัย บีทีเอส สาทร ซึ่งราคาโฆษณาย่อมสูงไปด้วย

ทั้งสองยังแนะนำว่าการเตรียมเนื้อหา ข้อความ รวมถึงแคมเปญโปรโมชั่นที่สื่อสารไปยังลูกค้าควรมีวิธีคิดด้วยการใช้หลัก CPR  C- Creative เพื่อสร้างความน่าสนใจ การดึงดูดใจ P – Precise ความแม่นยำจากแหล่งฐานข้อมูลลูกค้าหลากหลาย R – Real time การตอบสนองที่รวดเร็วและหลากหลายวิธีการเพื่อสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า


3. Digital Identification 2.0 อีกหนึ่งเทคโนโลยีที่มาแรงยิ่งช่วงโควิด-19 ระบาดลามหนักในหลายประเทศ การยืนยันตัวบุคคลแบบไม่ต้องพบหน้ารวมถึงการสัมผัสเอกสารเพื่อระบุตัวตนในอดีตถูกเข้ามาแทนที่อย่างรวดเร็วในหลายประเทศ การศึกษาพบว่าเทคโนโลยีนี้นอกจากสร้างความอุ่นใจให้ทั้งผู้ปฏิบัติงานและผู้ใช้บริการไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชนโดยกลุ่มธุรกิจอสังหาที่สามารถนำไปใช้เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าได้ทันทีได้แก่ ธุรกิจโรงแรม ธุรกิจอาคารสำนักงาน รวมถึงงานบริหารนิติบุคคล ซึ่งทั้งหมดสามารถใช้เทคโนโลยีการยืนยันบุคคลดิจิตอลในเวลาแค่ไม่กี่วินาที ไม่ต้องใช้การสำเนาเอกสาร อาทิ บัตรประชาชน หนังสือเดินทาง การเข้าออกพื้นที่ส่วนกลาง การควบคุมการแลกบัตรเข้าออกอาคาร รวมไปถึงการตรวจสอบใบรับรองวัคซีนจากต่างประเทศว่าถูกต้องไม่มีการปลอมแปลง 

นายปกรณ์ ลี้สกุล ผู้ก่อตั้ง บริษัท ฟินีม่า จำกัด กล่าวว่า ในอนาคตการยืนยันตัวตนผ่านดิจิทัล จะเป็นเครื่องมือหลักและเติบโตอีกมากเนื่องจากการประมวลผลคอมพิวเตอร์ที่ดีขึ้นและการเก็บข้อมูลผ่านบล็อกเชนมีความปลอดภัยสูงอีกทั้งผู้บริโภคต้องการประสบการณ์ที่ดี สะดวกรวดเร็วกว่า


4. Artificial Intelligence & Data Science  ดร.วินน์ วรวุฒิคุณชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บอทน้อย กรุ๊ป  กล่าวว่า เทคโนโลยีที่หลายคนเริ่มคุ้นเคย ในปี 2022 นี้จะได้เห็นการประยุกต์ใช้แบบจับต้องได้ เข้าถึงง่ายขึ้น อีกทั้งเข้ามาอยู่ในชีวิตประจำวันอย่างใกล้ชิด การวิเคราะห์ลูกค้า การทำนายพฤติกรรมการซื้อสินค้าและบริการได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น ยกตัวอย่างการนำ AI ไปใช้ในภาคอสังหาฯ


นายปิยพันธ์ วงศ์ยะรา ผู้ก่อตั้งแอปพลิเคชัน และเว็บไซต์ 2 read กล่าวว่า แพลต์ฟอร์ม Digital Content ได้ใช้เทคโนโลยี AI ประยุกต์เป็น BOT read ให้โปรแกรมทำการอ่านหนังสือแทนซึ่งเสียงที่ออกมาเกิดจาก AI ให้เรียนรู้การพูดพยัญชนะภาษาไทย การออกเสียงสระ การแสดงอารมณ์ผ่านตัวหนังสือซึ่งจะดีขึ้นเรื่อยๆ จนวันนึ้จะแยกไม่ออกว่าเสียงของคนจริง หรือ AI ในอนาคตเราศึกษาว่ามีโอกาสอีกมากจากการใช้ BOT read เพื่อลดการใช้พนักงานหรือตอบคำถามเรื่องเดิมในปริมาณมาก อาทิ เอกสารสัญญาทางกฎหมาย คู่มือการอยู่อาศัย เอกสารทางราชการ คู่มือรับประกันหลังการขาย ข้อมูลการบริการภาครัฐ รวมถึงจะได้เห็นผู้สื่อข่าว หรือ influencer ถูกสร้างจาก AI จนได้รับความนิยมไม่ต่างจากบุคคลจริง เป็นต้น อีกหนึ่งธุรกิจอสังหาฯที่ได้รับผลกระทบชัดเจนมากอย่างธุรกิจรีเทล ห้างสรรพสินค้า จากรายงานของสำนักวิจัยกรุงศรี คาดว่าธุรกิจรีเทลมีปัจจัยลบกดดันอย่างต่อเนื่องโดยคาดว่าธุรกิจรีเทลจะกลับมาฟื้นตัวที่ 1.5% -2.5% ในปลายปี 2021 และขยับขึ้นตามสถานการณ์ที่ผ่อนคลายจนถึงปี 2023


นายกรณ์กวินท์ พีระเดชไพศาล ผู้ก่อตั้ง AI & Smart Retail  กล่าวว่า หากมองภาพรวมของตลาดรีเทลทั่วโลกแนวโน้มเปลี่ยนเข้าสู่ยุคสมาร์ตรีเทลผ่านการขับเคลื่อนจากเทคโนโลยี AI และ Machine Learning เพื่อใช้การวิเคราะห์ นำเสนอสินค้าที่ตรงใจลูกค้า ในขณะเดียวกันทางฝากธุรกิจก็ได้ประโยชน์จากการลดต้นทุนของพนักงาน รวมทั้งสร้างประสบการณ์ใหม่ที่ดีให้กับลูกค้าในการช้อปปิ้งไม่ว่าจะเป็น smart counter หรือ smart cart ที่สะดวกรวดเร็วกว่าการซื้อสินค้าแบบดั้งเดิม ซึ่งแนวโน้มตรงนี้ชัดเจนและเกิดขึ้นแล้วโดยมีการคาดการณ์ว่า AI จะเข้ามาผลักดันตลาดรีเทลให้เติบโตได้อีกถึง 10 เท่าในปี 2026