ทุกบริษัทพยายามเร่งโอนกรรมสิทธิ์คอนโดมิเนียมที่สร้างเสร็จ

ช่วงโควิด-19 ตั้งแต่ต้นปีพ.ศ.2563 เป็นต้นมาส่งผลกระทบกับผู้ประกอบการทุกรายโดยเฉพาะเรื่องของการก่อสร้างโครงการอสังหาริมทรัพย์ของพวกเขา

ซึ่งเห็นได้ชัดเจนจากการที่โครงการคอนโดมิเนียมจำนวนมากเลื่อนกำหนดแล้วเสร็จจากปีพ.ศ.2563 เป็นปีพ.ศ.2564 และเลื่อนมาปีพ.ศ.2565 สำหรับโครงการที่มีกำหนดแล้วเสร็จปีพ.ศ.2564

แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าทุกโครงการมีปัญหาและเลื่อนกำหนดแล้วเสร็จออกไป มีเพียงแค่บางโครงการเท่านั้น ซึ่งเห็นได้ชัดในปีพ.ศ.2564 ที่มีจำนวนยูนิตแล้วเสร็จจดทะเบียนน้อยที่สุดในรอบ 10 กว่าปีที่ผ่านมา

แม้ว่าโควิด-19 จะมีผลตั้งแต่ปีพ.ศ.2563 ก็ตาม แต่ปีพ.ศ.2563 เป็นปีที่ผู้ประกอบการหลายรายเร่งปิดการขายโครงการที่มีกำหนดแล้วเสร็จในปีนั้น

การเร่งการก่อสร้างและโอนกรรมสิทธิ์ของคอนโดมิเนียมจำนวนมากจึงเกิดขึ้นในปีนั้น แต่หลังจากนั้นก็ลดลง

การเปิดขายโครงการคอนโดมิเนียมที่ลดน้อยลงในปีพ.ศ.2563 – 2564 จึงมีผลต่อเนื่องให้จำนวนคอนโดมิเนียมที่มีกำหนดแล้วเสร็จในปีพ.ศ.2564 – 2567 มีจำนวนน้อยมากเมื่อเทียบกับช่วงก่อนโควิด-19  

อาจจะมีเพียงปีพ.ศ.2565 ที่จำนวนคอนโดมิเนียมที่คาดว่าจะแล้วเสร็จในปีนั้นมีจำนวนค่อนข้างมาก เพราะหลายโครงการเลื่อนมาจากปีพ.ศ.2564 และหลายโครงการเปิดขายมาตั้งแต่ก่อนหน้าปีพ.ศ.2564 แล้ว

ผู้ประกอบการจำนวนมากที่มีโครงการแล้วเสร็จปีพ.ศ.2565 ต่างเร่งการก่อสร้างและต้องการให้โครงการแล้วเสร็จปีพ.ศ.2565 รวมไปถึงปิดการขายและโอนกรรมสิทธิ์ให้ได้ในปีนี้

เนื่องจากเศรษฐกิจอยู่ในช่วงที่ดีกว่าปีก่อนหน้านี้ และหลายโครงการมีความน่าสนใจ รวมไปถึงราคาขายอาจจะไม่ได้ปรับเพิ่มขึ้นจากก่อนหน้านี้มากนัก ทั้งๆ ที่ถ้าเป็นช่วงก่อนโควิด-19 ราคาขายอาจจะปรับเพิ่มขึ้นไปกว่า 20 – 30% แล้วก็เป็นไปได้ การเร่งโอนกรรมสิทธิ์ของผู้ประกอบการเป็นการหาเงินเข้ามาหมุนเวียนในบริษัท