24.3 C
Bangkok
Monday, December 15, 2025

ตลาดคอนโดมิเนียมในพัทยา

คอนโดมิเนียมในพัทยาประมาณ 62% อยู่ในทำเลจอมเทียนและนาจอมเทียน

เพราะช่วงหลายปีที่ผ่านมามีโครงการเปิดขายใหม่จำนวนมากในทำเลนี้

บางปีมีโครงการเปิดขายใหม่หลายพันยูนิตต่อเนื่องกัน 2 – 3 ปี แต่พอเจอช่วงที่ตลาดคอนโดมิเนียมชะลอตัวต่อเนื่องกัน

ทั้งเรื่องของค่าเงินรูเบิลรัสเซียที่ลดลงกว่า 40 – 50% ในช่วงปีพ.ศ.2557 – 2559 กว่าจะฟื้นตัวก็ช่วงปีพ.ศ.2560 เป็นต้นมา

ซึ่งช่วงก่อนปีพ.ศ.2557 เป็นช่วงที่ตลาดคอนโดมิเนียมในพัทยากำลังขยายตัวอย่างมาก

มีโครงการคอนโดมิเนียมราคาไม่แพงเปิดขายใหม่ต่อเนื่อง โดยเฉพาะในทำเลจอมเทียนที่เป็นทำเลยอดนิยมของชาวรัสเซีย

ดังนั้น เมื่อกำลังซื้อของชาวรัสเซียลดลง การซื้อขายคอนโดมิเนียมในพัทยาจึงอยู่ในช่วงชะลอตัว

และมาเจอกับสถานการณ์โควิด-19 อีกครั้งในช่วงปีพ.ศ.2563 – 2565

ทำให้ตลาดคอนโดมิเนียมในพัทยา โดยเฉพาะทำเลจอมเทียน และนาจอมเทียนยังมีคอนโดมิเนียมเหลือขายค่อนข้างเยอะในปัจจุบัน

เพราะเป็นเพียงไม่กี่พื้นที่ในพัทยาที่ยังหาที่ดินเพื่อพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ได้ โดยเฉพาะในพื้นที่ตามแนวถนนจอมเทียน สาย 2 ซึ่งเป็นทำเลใหม่ที่เกิดการตัดถนนจอมเทียนสาย 2 ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา

และปัจจุบันก็ยังคงมีที่ดินขนาดใหญ่เหลือพอให้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่

รวมไปถึงทำเลนาจอมเทียนที่มีโครงการเปิดขายใหม่ไม่น้อยในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เพราะเป็นทำเลที่สามารถพัฒนาโครงการติดชายหาดได้เลยเหมือนที่วงศ์อมาตย์

ทำให้มีโครงการคอนโดมิเนียมและโรงแรมเกิดขึ้นไม่น้อยในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่ก็ไม่ใช่ทุกโครงการที่จะติดชายหาด เพราะด้วยราคาที่ดินที่ค่อนข้างสูง

อีก 1 ทำเล คือ พื้นที่ตามแนวถนนพัทยาสาย 1 พัทยาสาย 2 และพัทยาสาย 3 เพราะในช่วงหลายปีที่ผ่านมามีโครงการคอนโดมิเนียมเปิดขายใหม่ไม่มาก

เนื่องจากที่ดินว่างเปล่าเหลือให้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์น้อยมาก วงศ์อมาตย์ และพัทยาเป็นทำเลที่มีการพัฒนามาต่อเนื่องยาวนานกว่า 30 – 40 ปี

ดังนั้น จึงหาที่ดินเพื่อการพัฒนาโครงการใหม่ๆ ได้ยาก ยกเว้น เจ้าของที่ดินต้องการปรับเปลี่ยนการใช้งานบนที่ดิน เพื่อให้สอดคล้องกับศักยภาพของที่ดินในปัจจุบัน และราคาที่ดินที่เปลี่ยนแปลงไปจากอดีต

พื้นที่ตามแนวชายหาดมีการพัฒนาแทบจะเต็มพื้นที่แล้ว การจะพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ใหม่ๆ บนที่ดินที่ติดกับชายหาดเป็นเรื่องยากมากๆ เพราะหาที่ดินเพื่อการพัฒนาได้ยาก และราคาที่ดินก็ค่อนข้างสูง

ปัจจุบันขายกันที่มากกว่า 400,000 บาทต่อตารางวาไปแล้วอาจจะมีที่มากกว่านี้ เพราะที่ดินหาได้ยาก ถ้าไกลจากชายหาดก็อยู่ที่ประมาณ 300,000 บาทต่อตารางวา

Recent Articles

TCMA นำทัพผู้นำอาเซียนซีเมนต์

สมาคมอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ไทย (TCMA) ตอกย้ำบทบาทผู้นำระดับภูมิภาค นำสภาผู้ผลิตปูนซีเมนต์แห่งอาเซียน (ASEAN Federation of Cement Manufacturers: AFCM) เดินหน้าประกาศโรดแมปลดคาร์บอน “2035 AFCM Decarbonization Roadmap” ความร่วมมือที่ริเริ่มโดยอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ในระดับภูมิภาคแห่งแรกของโลก สะท้อนพลังความร่วมมือขับเคลื่อนลดคาร์บอนอย่างเป็นรูปธรรม

เปิดพอร์ต “เซ็นทรัลพัฒนา เรซซิเด้นซ์” 11 ปี 51 โครงการ 6.57 หมื่นล้าน

บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา เรซซิเด้นซ์ จำกัด ตอกย้ำความสำเร็จด้านผู้นำการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์อย่างยั่งยืน ดันพอร์ตโครงการแนวราบและแนวสูงตามหัวเมืองเศรษฐกิจทั่วทุกภูมิภาคกว่า 51 โครงการ 16,000 ยูนิต มูลค่ารวม 65,700 ล้านบาท สู่การขยายพอร์ตรุกตลาดบ้านเดี่ยวในกรุงเทพฯ อย่างเต็มรูปแบบ พร้อมเดินหน้าสร้างภาพจำ “บ้านเซ็นทรัล” ผ่าน 4 คาแรคเตอร์แบรนด์บ้านเดี่ยว ‘นิยาม-นิรดา-นินญา-นิรติ’ ครอบคลุมทุกเซ็กเมนต์ทั้งกรุงเทพฯ...

สมิติเวช-แสนสิริ ผนึกกำลัง สู่มิติใหม่ของการอยู่อาศัยคุณภาพ

การผนึกกำลังครั้งสำคัญ โรงพยาบาลสมิติเวช โรงพยาบาลเอกชนชั้นนำด้านสุขภาพและการแพทย์ ผนวกวิสัยทัศน์ร่วมกับ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ผู้นำด้านพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยคุณภาพ ประกาศเปิดตัวแคมเปญ "Wellness at Home" อย่างเป็นทางการ เพื่อสร้างมิติใหม่ของการใช้ชีวิตที่ผสานแนวคิดการดูแลลูกบ้านในทุกมิติอยู่อาศัย เข้ากับการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเมืองที่ใส่ใจสุขภาพและต้องการบริการคุณภาพที่มาพร้อมความสะดวกสบายระดับพรีเมียม พญ. ธิดากานต์...

เอพี ไทยแลนด์ ย้ำบริษัทอสังหาอันดับ 1

เอพี ไทยแลนด์ ภายใต้คำมั่นสัญญา ชีวิตดีๆ ที่เลือกเองได้ เผยผลการดำเนินงาน 9 เดือนแรก เติบโตยืนหนึ่งในอุตสาหกรรมอสังหาฯ เพื่อการอยู่อาศัยที่มุ่งส่งมอบที่สุดของ Living Quality ในแบบคุณ #APThaiบริษัทอสังหาอันดับ1 ผลประกอบการ 9 เดือนปี...

ดับบลิว เฮ้าส์ เดินเกมผู้นำรับสร้างบ้านหรู ทำเลเขาใหญ่

ดับบลิว เฮ้าส์ เดินหน้าบุกรับสร้างหรูทำเลเขาใหญ่ ทำเลยอดฮิตแหล่งโอโซนระดับโลกใกล้เมือง ตั้งเป้าเจาะตลาดบ้านหรูหลังที่สอง ‘เศรษฐีไทย’ สิ้นปี 2568 ยอดสร้างบ้านหรูโตก้าวกระโดด ครองสัดส่วน 30–40% พอร์ตรวมบริษัท เฉลี่ยทำผลงานส่งมอบงานลูกค้ากว่า 10 หลังต่อปี มูลค่าต่อหลังประมาณ 30-70 ล้านบาท