คอนโดมิเนียมในกรุงเทพมหานคร

เป็นที่รับรู้กันมานานแล้วว่าผู้ประกอบการรายใหญ่เป็นผู้เล่นหลักในตลาดคอนโดมิเนียม โดยคอนโดมิเนียมส่วนใหญ่ที่เปิดขายในกรุงเทพมหานครตั้งแต่ในอดีตที่ผ่านมา เป็นคอนโดมิเนียมที่พัฒนาและเปิดขายโดยผู้ประกอบการรายใหญ่ในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งอาจจะมีสัดส่วนที่แตกต่างกันไปตามแต่ละปี และผันแปรตามภาวะเศรษฐกิจของประเทศไทย โดยในช่วงปีพ.ศ.2561 – 2562 ช่วงเวลาที่ตลาดคอนโดมิเนียมและเศรษฐกิจยังไม่เข้าสู่วิกฤต

ตั้งแต่ปีพ.ศ.2565 เป็นต้นมา ผู้ประกอบการหลายรายเปิดขายโครงการคอนโดมิเนียมมากขึ้นแบบชัดเจน วึ่งมากกว่าช่วงปีพ.ศ.2563 – 2564 แน่นอนอยู่แล้ว แต่ผู้ประกอบการบางรายอย่าง แสนสิริ และออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้

ผู้ประกอบการรายใหญ่ในตลาดหลักทรัพย์ยังคงระวังการเปิดขายโครงการใหม่ในปีพ.ศ.2566 แม้ว่าผู้ประกอบการบางรายจะเปิดขายโครงการใหม่มากขึ้น และมูลค่ารวมของโครงการที่จะเปิดขายใหม่ปีพ.ศ.2566 จะมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของบริษัท แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าผู้ประกอบการส่วนใหญ่จะมั่นใจในกำลังซื้อของคนไทย แม้ว่าการแสดงออกของพวกเขาอาจจะดูว่ามั่นใจมาก แต่ถ้าสังเกตดูจะเห็นว่าผู้ประกอบการส่วนใหญ่ยังคงเปิดขายโครงการบ้านจัดสรรมากกว่าคอนโดมิเนียม

ปีพ.ศ.2565 น่าจะเป็นปีแรกที่ตลาดอสังหาริมทรัพย์ขยายตัวมากขึ้น หลังจากที่ซบเซา อืดๆ ไปในปีพ.ศ.2563 – 2564 ผู้ประกอบการหลายรายมีรายได้มากขึ้นแบบชัดเจน มากกว่าปีพ.ศ.2564 ค่อนข้างมาก ซึ่งแน่นอนเพราะว่าปีพ.ศ.2564 เป็นปีที่สถานการณ์ตลาดอสังหาริมทรัพย์ยังไม่ฟื้นตัว

คอนโดมิเนียมเปิดขายใหม่ในไตรมาสที่ 4 พ.ศ.2565 มีทั้งหมดประมาณ 11,390 ยูนิตมากกว่าไตรมาสที่ 3 ถึง 115% ส่งผลให้จำนวนคอนโดมิเนียมเปิดขายใหม่ในปีพ.ศ.2565 อยู่ที่ประมาณ 43,020 ยูนิต มากกว่าปีที่แล้วประมาณ 178% แสดงให้เห็นได้แบบชัดเจนว่าผู้ประกอบการมีความมั่นใจในภาวะเศรษฐกิจในปีพ.ศ.2566...

ปีพ.ศ.2566 เริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงในทิศทางที่ชัดเจนมากขึ้นในตลาดคอนโดมิเนียมราคาแพง ผู้ประกอบการหลายรายเริ่มเดินหน้าโครงการราคาแพงของตนเองมากขึ้น ทั้งในกลุ่มที่มีการก่อสร้างไปแล้ว และในกลุ่มที่ยังไม่ได้เริ่มการก่อสร้าง หรือที่ยังไม่มีการเปิดตัวเลย โดยทำเลที่มีโครงการในระดับนี้ยังเป็นทำเลรอบสวนลุมพินี และพื้นที่ตามแนวถนนสุขุมวิทช่วงตั้งแต่สุขุมวิทซอย 1 ไปถึงซอยทองหล่อซึ่งรวมไปถึงพื้นที่ในซอยที่แยกออกจากถนนสุขุมวิทด้วย

จำนวนคอนโดมิเนียมที่มีราคาเริ่มต้นที่มากกว่า 200,000 บาทต่อยูนิตขึ้นไปที่เปิดขายมาตั้งแต่ปีพ.ศ.2556 ในกรุงเทพมหานครมีจำนวนรวมทั้งหมดประมาณ 25,030 ยูนิต โดยกว่า 75% เปิดขายในช่วงปีพ.ศ.2559 – 2562 แต่มากที่สุดในปีพ.ศ.2561 ซึ่งเป็นปีที่ตลาดอสังหาริมทรัพย์มีการขยายตัวมากที่สุดในทุกระดับราคาขาย และในทุกทำเล โดยเป็นคอนโดมิเนียมในระดับราคาขายในช่วงราคาขาย 200,000...

การเปิดให้บริการของเส้นทางรถไฟฟ้ามีผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยในกรุงเทพมหานคร เพราะราคาที่ดินปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ถ้านับในระยะยาว 20 ปีที่ผ่านมาปรับเพิ่มเกินกว่า 1 – 2 เท่าไปแล้ว โดยเฉพาะในพื้นที่ตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้าที่ผ่านใจกลางเมืองชั้นในของกรุงเทพมหานคร เพราะความต้องการที่ดินของผู้ประกอบการเป็นปัจจัยสนับสนุนให้ราคาที่ดินแพงขึ้น เจ้าของที่ดินอาจจะตั้งราคาขายแพง แต่สุดท้ายคนที่เป็นส่วนสำคัญในการผลักดันให้ราคาที่ดินเพิ่มขึ้นคือ

การเปิดให้บริการของเส้นทางรถไฟฟ้าเส้นทางแรกเมื่อปีพ.ศ.2542 และเส้นทางรถไฟฟ้าใต้ดินเส้นทางแรกปีพ.ศ.2547 เป็นเสมือนการผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของรูปแบบการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์บนที่ดินในกรุงเทพมหานครแบบชัดเจน เพราะราคาที่ดินในพื้นที่ตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้าต่างๆ เพิ่มขึ้นมากกว่า 2 – 3 เท่าในช่วง 20 - 25 ปีที่ผ่านมา

การพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์จำเป็นต้องมีที่ดิน เพราะโครงการส่วนใหญ่เกือบ 100% พัฒนาบนที่ดิน ดังนั้น ต้นทุนของการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ไม่ว่าจะเป็นโครงการประเภทใดก็ตามจะอยู่ที่ที่ดิน ราคาที่ดินเหมือนจะเป็นตัวกำหนดประเภทของโครงการ รูปแบบของโครงการ รวมไปถึง ระดับของราคาขายของโครงการบนที่ดินแปลงนั้นๆ เพราะต้นทุนที่ดินคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 15 -25%...