31.7 C
Bangkok
Saturday, July 27, 2024

กระทรวงมหาดไทยอนุญาตให้คนต่างด้าวบางจำพวกเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษ

ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การอนุญาตให้คนต่างด้าวบางจำพวกเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษ ตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนโดยการดึงดูดคนต่างด้าวที่มีศักยภาพสูงสู่ประเทศไทย

ที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษาวันที่ 2 มิถุนายน พ.ศ.2565 และมีผลบังคับใช้วันที่ 1 ก.ย.2565 อาจจะเป็นกฎหมายที่ส่งเสริมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในระดับหนึ่ง

โดยอนุมัติวีซ่าระยะยาว 10 ปีให้กับชาวต่างชาติ 4 กลุ่มซึ่งเป็นกลุ่มชาวต่างชาติที่มีศักยภาพสูง คือ

1. ผู้มีความมั่งคั่งสูง มีทรัพย์สินมูลค่ารวมไม่ต่ำกว่า 1 ล้านดอลลาร์ และมีรายได้ส่วนบุคคลไม่น้อยกว่า 80,000 ดอลลาร์/ปี และลงทุนในไทยไม่น้อยกว่า 500,000 ดอลลาร์

2. ผู้เกษียณอายุจากต่างประเทศ มีรายได้ส่วนบุคคลไม่น้อยกว่า 80,000 ดอลลาร์/ปี กรณีรายได้ต่ำกว่าที่กำหนด ต้องลงทุนไม่น้อยกว่า 250,000 ดอลลาร์ในพันธบัตรรัฐบาล หรืออสังหาริมทรัพย์

3. ผู้ที่ต้องการทำงานจากประเทศไทย มีรายได้ส่วนบุคคลไม่น้อยกว่า 80,000 ดอลลาร์/ปี กรณีรายได้ต่ำกว่าที่กำหนด ต้องสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโทขึ้นไป หรือครอบครองทรัพย์สินทางปัญญา หรือได้รับเงินทุน Series A

4. ผู้มีทักษะเชี่ยวชาญพิเศษมีรายได้ส่วนบุคคลไม่น้อยกว่า 80,000 ดอลลาร์/ปี กรณีรายได้ต่ำกว่าที่กำหนด ต้องสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโทขึ้นไปในสาขาวิทยาศาสตร์หรือเทคโนโลยีหรือมีความเชี่ยวชาญในสายงานที่เข้ามาทำในประเทศไทย

โดยต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนประกาศกำหนดโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี

นอกจากนี้ยังรวมผู้ติดตามของ 4 กลุ่มแรกด้วย คือ คู่สมรส และบุตรตามกฎหมายซึ่งมีอายุไม่เกิน 20 ปี และมีจำนวนรวมกันไม่เกิน 4 คน

แม้ประกาศนี้จะไม่ได้ระบุเรื่องของการถือครองอสังหาฯ ยกเว้นกลุ่มของผู้ที่เกษียณอายุจากต่างประเทศเท่านั้น

แต่การได้วีซ่าระยะยาว 10 ปี เท่ากับว่า ถ้าชาวต่างชาติที่ยื่นขอวีซ่านี้สามารถอยู่ในประเทศไทยได้ 10 ปีโดยที่ต้องรายงานตัวทุก 1 ปี (ก่อนหน้านี้ทุก 90 วัน) และไม่จำกัดจำนวนครั้งในการเข้า-ออก

เมื่ออยู่ในไทยก็มีความเป็นไปได้ที่จะต้องมีที่อยู่อาศัย ซึ่งอาจกระตุ้นให้เกิดการซื้อคอนโดได้

Recent Articles

กลุ่ม SMEs อสังหาฯ เดินหน้าปรับตัว ตั้งการ์ดสู้วิกฤต

กลุ่มผู้ประกอบการขนาดกลางและเล็กที่อยู่ในห่วงโซ่อุปทานที่เกี่ยวเนื่องกับภาคอสังหาริมทรัพย์ ทั้งผู้รับเหมาก่อสร้าง ผู้ออกแบบ โรงงานวัสดุก่อสร้าง กลุ่มผู้ประกอบการด้านการตกแต่งสถานที่และการจัดสวน ได้รวมตัวกันเพื่อแสดงจุดยืน ขอความเห็นใจและเรียกร้องทุกภาคส่วนร่วมเดินหน้ากระตุ้นเศรษฐกิจ และส่งเสียงถึงรัฐบาลเร่งมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ให้มากขึ้นอย่างเร่งด่วน เพื่อให้สามารถพยุงธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ให้เดินหน้าผ่านวิกฤตเศรษฐกิจชะลอตัวในครั้งนี้ไปได้ ซึ่งได้มีการเตรียมพร้อมและวางแผนการทำงานอย่างรอบคอบ ยืดหยุ่น เพื่อรับมือกับสถานการณ์ต่างๆ มาอย่างต่อเนื่องแล้ว แต่ปัจจุบันภาคอสังหาริมทรัพย์เองก็ได้รับผลกระทบมาเป็นระยะๆ ส่งผลให้ธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ทั้งต้นน้ำและปลายน้ำของ Supply Chain ได้รับผลกระทบแบบโดมิโน จนอาจถึงขั้นต้องปิดกิจการเป็นจำนวนมาก  

‘แลนดี้ โฮม’ บุกเชียงใหม่!

แลนดี้ โฮม เปิดตลาดภาคเหนือ ปักหมุดเชียงใหม่ พื้นที่เศรษฐกิจขยายตัวสูง ชูนวัตกรรมบ้านสุขภาพดี สร้างบ้านพร้อมติดตั้งระบบป้องกันฝุ่น PM 2.5 ไปกับตัวบ้าน เจาะกลุ่มลูกค้าที่ต้องการสร้างบ้านหลังใหญ่ที่มีความกังวลปัญหามลพิษทางอากาศ, ไม่มีเวลาควบคุมงาน รวมถึงต้องการให้บริษัทที่มีความเป็นมืออาชีพเข้ามาดูแลในทุกขั้นตอน พร้อมทุ่มงบกว่า 50 ล้านบาท ในการเปิดสาขาและสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักกับคนในพื้นที่ ตั้งเป้ายอดขาย 100 ล้านบาทในปี 2567 พิเศษ!...

กลุ่มสยามสินธร จับมือ Wake Up Waste

กลุ่มสยามสินธร ยึดมั่นแนวทางองค์กรธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและวิถีแห่งความยั่งยืนอย่างต่อเนื่อง จับมือพันธมิตร Wake Up Waste แพลตฟอร์มบริหารจัดการ ซื้อขายขยะรีไซเคิล และรถบีบอัดช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการขยะ จากบริษัท เอสซีจี เคมิคอลส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCGC เจ้าของรางวัล Gold Award จากเวที Marketing Award...

AWC เปิดโครงการ “Phenix” ศูนย์กลางด้านอาหารครบวงจรระดับโลก

กรุงเทพฯ 26 มิถุนายน 2567 – นายกรัฐมนตรี สถานทูต ภาครัฐ ภาคเอกชนวงการอาหาร และบริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จํากัด (มหาชน) หรือ AWC ร่วมรวมพลังเปิดโครงการ “Phenix” (ฟีนิกซ์)...

TCMA ผนึกทุกภาคส่วนเร่งเดินหน้า

TCMA สานต่อความสำเร็จประชุมสุดยอดผู้นำอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ทั่วโลก “GCCA CEO Gathering and Leaders Conference 2024” ผนึกทุกภาคส่วนเดินหน้าสู่การบรรลุเป้าหมายปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ในปี 2593 มุ่งหน้าเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาด คู่ขนานพัฒนาเทคโนโลยีนวัตกรรมดักจับ/ใช้ประโยชน์/กักเก็บคาร์บอน พร้อมบริหารจัดการกรีนฟันด์ 212 ล้านบาทให้เกิดประโยชน์สูงสุด ตอบสนองเป้าหมาย Net Zero 2050