26.8 C
Bangkok
Saturday, July 27, 2024

ทุนจีนยังไม่ได้เข้ามาลงทุนโครงการขนาดใหญ่ในไทย

การเข้ามาลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ของทุนจีนอาจจะยังไม่เห็นมากเมื่อเทียบกับในประเทศเพื่อนบ้านของประเทศไทย

เพราะผู้ประกอบการจีนที่เข้ามาในประเทศไทยยังเลือกที่จะลงทุนให้สอดคล้องกับกำลังคนซื้อคนไทยโดยที่ไม่ได้คำนึงถึงกำลังซื้อคนจีนแบบที่คาดคิด

สัดส่วนของการซื้อโดยคนจีนในโครงการที่พัฒนาโดยผู้ประกอบการจากประเทศจีนยังไม่เกิน 49% ตามกฎหมาย

อาจจะมีที่เกินสัดส่วนที่กำหนดบ้างแต่ก็เป็นการถือครองในรูปแบบของนิติบุคคลไปหรือที่เรียกกันว่า “นอมินี”

หรือที่เป็นข่าวไปในช่วงไม่นานมานี้ ก็การเป็นเจ้าของบ้านเกือบทุกหลังในโครงการบ้านจัดสรรราคาแพง

หรือการเป็นเจ้าของโครงการบ้านจัดสรรในประเทศไทยเลยผ่านการพัฒนาโดยบริษัทที่จดทะเบียนในประเทศไทยตามกฎหมายถูกต้องแบบ 100%

แต่รูปแบบการดำเนินธุรกิจ และความโปร่งใสนั้นผิดแน่นอน

การเข้ามาของทุนจีนในรูปแบบนี้อาจจะดูเหมือนไม่ใช่การลงทุนขนาดใหญ่แบบที่เห็นในประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งทุนจีนเข้าไปในหลายประเทศเป้นการเข้าไปลงทุนสร้างอาคารสูง โครงการที่อยู่อาศัย มิกซ์-ยูสขนาดใหญ่ หรือสร้างเป็นเมืองใหม่ขึ้นมาจากที่ดินรกร้างว่างเปล่า

รวมไปถึงเข้าไปลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษที่รัฐบาลประเทศต่างๆ เปิดช่องทางในการลงทุนให้

แม้ว่าการลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษ รัฐบาลประเทศต่างๆ จะให้ทุนจีนลงทุนเช่าที่ดินระยะยาว แต่ก็ยาวนานมากกว่า 50 ปีขึ้นไป ซึ่งถือว่าเพียงพอสำหรับการลงทุนเพื่อพัฒนาโครงการขนาดใหญ่

ซึ่งถ้าโครงการเสร็จสมบูรณ์ก็คงไม่มีปัญหาอะไร แต่ถ้าทุนจีนหรือเขาเริ่มคิดได้ว่าการลงทุนโครงการนี้สร้างผลตอบแทนที่ไม่คุ้มค่า ก็อาจจะหยุดการก่อสร้างไปเลย ปล่อยให้อาคารที่กำลังก่อสร้างต่างๆ ต้องหยุดชะงักไปทันทีเลย หรือถ้าเป็นการลงทุนในที่ดินขนาดใหญ่ เช่น

เขตเศรษฐกิจพิเศษก็จะมีสภาพไม่สมบูรณ์เพราะมีการพัฒนาไปเพียงบางส่วนเท่านั้น โครงการที่อยู่อาศัยหรือการลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษของกลุ่มทุนจีนในประเทศเพื่อนบ้านนั้นไม่ได้เป็นการพัฒนาเพื่อคนในพื้นที่

แต่เป็นการพัฒนาโครงการขึ้นมาเพื่อรองรับกำลังซื้อของคนจีนซะเป็นส่วนใหญ่ เพราะคนในประเทศนั้นๆ อาจจะไม่สามารถซื้ออสังหาริมทรัพย์ได้ เพราะราคาขายสูงกว่ากำลังซื้อของคนในประเทศ

Recent Articles

กลุ่ม SMEs อสังหาฯ เดินหน้าปรับตัว ตั้งการ์ดสู้วิกฤต

กลุ่มผู้ประกอบการขนาดกลางและเล็กที่อยู่ในห่วงโซ่อุปทานที่เกี่ยวเนื่องกับภาคอสังหาริมทรัพย์ ทั้งผู้รับเหมาก่อสร้าง ผู้ออกแบบ โรงงานวัสดุก่อสร้าง กลุ่มผู้ประกอบการด้านการตกแต่งสถานที่และการจัดสวน ได้รวมตัวกันเพื่อแสดงจุดยืน ขอความเห็นใจและเรียกร้องทุกภาคส่วนร่วมเดินหน้ากระตุ้นเศรษฐกิจ และส่งเสียงถึงรัฐบาลเร่งมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ให้มากขึ้นอย่างเร่งด่วน เพื่อให้สามารถพยุงธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ให้เดินหน้าผ่านวิกฤตเศรษฐกิจชะลอตัวในครั้งนี้ไปได้ ซึ่งได้มีการเตรียมพร้อมและวางแผนการทำงานอย่างรอบคอบ ยืดหยุ่น เพื่อรับมือกับสถานการณ์ต่างๆ มาอย่างต่อเนื่องแล้ว แต่ปัจจุบันภาคอสังหาริมทรัพย์เองก็ได้รับผลกระทบมาเป็นระยะๆ ส่งผลให้ธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ทั้งต้นน้ำและปลายน้ำของ Supply Chain ได้รับผลกระทบแบบโดมิโน จนอาจถึงขั้นต้องปิดกิจการเป็นจำนวนมาก  

‘แลนดี้ โฮม’ บุกเชียงใหม่!

แลนดี้ โฮม เปิดตลาดภาคเหนือ ปักหมุดเชียงใหม่ พื้นที่เศรษฐกิจขยายตัวสูง ชูนวัตกรรมบ้านสุขภาพดี สร้างบ้านพร้อมติดตั้งระบบป้องกันฝุ่น PM 2.5 ไปกับตัวบ้าน เจาะกลุ่มลูกค้าที่ต้องการสร้างบ้านหลังใหญ่ที่มีความกังวลปัญหามลพิษทางอากาศ, ไม่มีเวลาควบคุมงาน รวมถึงต้องการให้บริษัทที่มีความเป็นมืออาชีพเข้ามาดูแลในทุกขั้นตอน พร้อมทุ่มงบกว่า 50 ล้านบาท ในการเปิดสาขาและสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักกับคนในพื้นที่ ตั้งเป้ายอดขาย 100 ล้านบาทในปี 2567 พิเศษ!...

กลุ่มสยามสินธร จับมือ Wake Up Waste

กลุ่มสยามสินธร ยึดมั่นแนวทางองค์กรธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและวิถีแห่งความยั่งยืนอย่างต่อเนื่อง จับมือพันธมิตร Wake Up Waste แพลตฟอร์มบริหารจัดการ ซื้อขายขยะรีไซเคิล และรถบีบอัดช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการขยะ จากบริษัท เอสซีจี เคมิคอลส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCGC เจ้าของรางวัล Gold Award จากเวที Marketing Award...

AWC เปิดโครงการ “Phenix” ศูนย์กลางด้านอาหารครบวงจรระดับโลก

กรุงเทพฯ 26 มิถุนายน 2567 – นายกรัฐมนตรี สถานทูต ภาครัฐ ภาคเอกชนวงการอาหาร และบริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จํากัด (มหาชน) หรือ AWC ร่วมรวมพลังเปิดโครงการ “Phenix” (ฟีนิกซ์)...

TCMA ผนึกทุกภาคส่วนเร่งเดินหน้า

TCMA สานต่อความสำเร็จประชุมสุดยอดผู้นำอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ทั่วโลก “GCCA CEO Gathering and Leaders Conference 2024” ผนึกทุกภาคส่วนเดินหน้าสู่การบรรลุเป้าหมายปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ในปี 2593 มุ่งหน้าเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาด คู่ขนานพัฒนาเทคโนโลยีนวัตกรรมดักจับ/ใช้ประโยชน์/กักเก็บคาร์บอน พร้อมบริหารจัดการกรีนฟันด์ 212 ล้านบาทให้เกิดประโยชน์สูงสุด ตอบสนองเป้าหมาย Net Zero 2050