ปัญหาของเอเวอร์แกรนด์ นอกจากจะมีปัญหาต่อคนซื้อทั่วไปแล้ว ภาคการเงินการธนาคารของประเทศจีน
รวมไปถึงภาคธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับเอเวอร์แกรนด์ หรือตลาดอสังหาริมทรัพย์ล้วนประสบปัญหาไปตามๆ กัน เช่น
วัสดุก่อสร้าง แรงงาน เป็นต้น แต่ทางรัฐบาลจีนดูเหมือนจะปล่อยให้บริษัทล้มละลายไป
หรือจัดการเรื่องขายทรัพย์สินไปก่อน
แล้วจึงเข้าช่วยเหลือหรือเข้ามาดูแลแค่ในส่วนของผู้ที่จ่ายเงินซื้อบ้านหรือคอนโดมิเนียมไปแล้วเท่านั้น
ซึ่งคาดว่ามีประมาณ 6 ล้านคน เพื่อไม่ให้ประชาชนส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบ
แต่ผลกระทบที่เกิดกับภาคการเงิน การธนาคาร บริษัทวัสดุก่อสร้าง และธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับเอเวอร์แกรนด์ในประเทศจีนอาจหนักหนาสาหัสพอสมควร
ตลาดการลงทุนนอกประเทศจีนอาจจะได้รับผลกระทบไม่น้อย
เพราะหุ้นกู้ของเอเวอร์แกรนด์ขายไปทั่วโลก ซึ่งจริงๆ แล้วไม่เพียงแต่เอเวอร์แกรนด์ที่มีปัญหา
ก่อนหน้านี้มีอีกหลายรายที่ผิดนัดชำระหุ้นกู้ เช่น เซ็นทรัล ไชน่า เรียลเอสเตต, บริษัท ลีดดิง โฮลดิ้งส์ กรุ๊ป, ซันชายน์ 100, แฟนตาเซีย โฮลดิ้งส์ กรุ๊ป, ไคซา กรุ๊ป, โมเดิร์น แลนด์, ซือเม่า กรุ๊ป, ซูแนค เป็นต้น
และล่าสุดที่อาจจะผิดนัดชำระดอกเบี้ยหุ้นกู้ และเป็นรายใหญ่ที่ต้องติดตามสถานการณ์ต่อเนื่อง คือ คันทรี การ์เด้น
