โรงเรียนเอกชนน่าจะเป็นอีก 1 ธุรกิจที่เริ่มมีจำนวนลดน้อยลง
โดยโรงเรียนเอกชนในทุกระดับการศึกษามีหลาบแห่งที่ปิดกิจการหรือขายที่ดินไปแล้ว
โรงเรียนเอกชนที่เช่าที่อยู่ก็ไม่ต่อสัญญาเช่า หรือเลิกกิจการโรงเรียนก่อนที่จะครบสัญญาเช่า
โดยที่เห็นได้ชัดเจนจะเห็นโรงเรียนหรือวิทยาลัยที่สอนทางช่างหรือด้านพาณิชยกรรม
โรงเรียนเอกชนในระดับอนุบาล ประถมศึกษา และระดับมัธยมศึกษาก็เช่นกันที่ลดน้อยลง
ปัจจัยหลักๆ คือเรื่องของจำนวนของเด็กเกิดใหม่ลดน้อยลงในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา
ทำให้เด็กเข้าสู่ระบบการศึกษาลดน้อบลงมากในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา
หลายๆ โรงเรียนที่เช่าที่ดินหรือว่าไม่มีคนสืบทอดต่อก็จะไม่ต่อสัญญาเช่า หรือขายที่ดินไปเลย เจ้าของที่ดินก็เช่นกันที่เลือกทีจะขายที่ดินออกไป
โรงเรียนในระดับต่างๆ ที่เลิกกิจการไปเท่าที่นึกออก เช่น
โรงเรียนช่างฝีมือปัญจวิทยาที่กลายเป็นโครงการเอ็ม จตุจักร กรุงเทพการบัญชีวิทยาลัยเปลี่ยนเป็นโครงการวิช ซิกเนเจอร์ 2
โรงเรียนเทพสัมฤทธิ์วิทยาแถวบางโพเปลี่ยนเป็นโครงการเดอะสเตท โรงเรียนประชาราษฎร์พิทยาเปลี่ยนเป็นโครงการริชพาร์ค 2
โรงเรียนอนุบางดาริกาเปลี่ยนเป็นโครงการเซ็นทริค อารีย์ อาจจะมีอีกแต่นึกไม่ออก
และมีบางโรงเรียนที่เสียที่ดินบางส่วนเพื่อเป็นทางเข้าออกของบางโครงการ หรือเปลี่ยนเป็นอย่างอื่นไปก่อนที่จะถึงยุคคอนโดมิเนียม
โรงเรียน อาบอบนวด โรงภาพยนตร์ ที่เริ่มหายไปจากกรุงเทพมหานครมากขึ้น
ทั้งในเรื่องของรูปแบบการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไป เรื่องของราคาที่ดินที่เพิ่มสูงขึ้น และที่สำคัญ คือ เรื่องของรายได้ที่ลดลงจากการทำธุรกิจเหล่านี้
อีก 1 ธุรกิจที่เริ่มห็นว่ามีจำนวนลดลงค่อนข้างมากในช่วงหลายๆ ปีที่ผ่านมา
คือ ปั๊มน้ำมัน หรือปั๊มแก๊ส หรือสถานีบริการน้ำมัน/แก๊ส โดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพมหานครชั้นใน
เพราะปั๊มน้ำมัน/แก๊สส่วนใหญ่จะอยู่บนที่ดินเช่าระยะยาว
ซึ่งการเลิกกิจการอาจจะเป็นเพราะว่าครบสัญญาเช่าแล้วเจ้าของที่ดินปรับค่าเช่าเพิ่มขึ้นค่อนข้างมาก
เนื่องจากศักยภาพที่ดินเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม หรือมีการซื้อขายที่ดินในทำเลใกล้เคียงหรือไม่ไกลจากที่ดินที่เป็นปั๊มน้ำมัน/แก๊สในราคาที่สูงมาก
จนเจ้าของที่ดินเริ่มคิดถึงการขายที่ดินเพื่อรับเงินก้อนใหญ่ ดีกว่าปล่อยเช่าเป็นปั๊มน้ำมันหรือปั๊มแก๊สแบบตอนนี้ไปอีก 3 ปี, 5 ปี หรือ 10 ปี
แม้ว่าที่ดินบางแปลงอาจจะยังมีสัญญาเช่ากับปั๊มน้ำมันอยู่ แต่ก็ยินดีที่จะขายก่อนครบสัญญาเช่า
แล้วเจ้าของที่ดินยอมจ่ายค่าชดเชยให้กับปั๊มน้ำมัน เพื่อที่จะได้ปิดการขายที่ดินโดยเร็ว
และเมื่อมองในระยะยาวก็มีความเป็นไปได้ที่รถที่ใช้น้ำมันจะลดน้อยลงไป การรับเงินก้อนตอนนี้ก็ดูจะเป็นทางเลือกที่น่าสนใจกว่า
แต่อาจจะมีบางรายที่เลือกรับรายได้ในระยะยาวแบบต่อเนื่อง ก็แล้วแต่ความต้องการของเจ้าของที่ดินแต่ละราย
